Sunday, November 22, 2009

การใช้ชีวิตบนเรือ

ครับผมก็มาต่อกันอีกครับกับการใช้ชีวิตบนเรือ หรือที่ต่อไปเราจะเรียกว่า life at sea นี่คือแบบสุภาพ แต่ถ้าแบบไม่สุภาพก็จะพูดว่า same shit difference day ครับ คนเราไม่ว่าไปอยู่ที่ไหน มันก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเรานี่แหละครับว่าอยากจะอยู่อย่างไรและอยากจะทำตัวอย่างไร มาทำงานเรือไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีเงินเยอะ ถ้าคุณไม่เก็บ มาทำงานเรือไม่ได้หมายความว่าคุณจะเก่งภาษา ถ้าคุณไม่ฝึกและเรียนรู้ไปด้วย เพราะฉนั้นจงทำความเข้าใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมกำลังได้พยายามถ่ายทอดออกมาให้ได้รับรู้กัน ไม่ได้บอกว่าผมเป็นเทพนะครับ บางเรื่องบางประสบการณ์ที่มันไม่ดีน่ะ บางเรื่องก็มาจากผมนี่แหละ ผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรมากมายหรอกครับ เคยผิดพลาดมาก็บ่อย แต่ว่าก็เก็บเอาประสบการณ์ความผิดพลาดนั้นมาบอกกล่าวกับคนทำงานเรือรุ่นหลังๆ จะได้รู้ทันและเตรียมการรับมือได้ ครับครั้งที่แล้วเราคุยกันค้างไว้เกี่ยวกับเรื่องการใช้ชีวิตบนเรือ ก็มีเรื่องที่พัก cabin อาหาร crew mess และก็การรักษาพยาบาล crew clinic
งั้นวันนี้มาต่อกันเรื่องต่อไปดีกว่าครับ


     UNIFORM ตรงส่วนของ uniform นี้ทางเรือจะแจกให้ตอนที่เรามา join เรือเป็นครั้งแรก[ของ princess cruises นะครับ ของบริษัทอื่นยังไม่รู้ ใครรู้แล้วส่งข่าวด่วน] แต่ปีต่อๆ ไปคุณต้องเตรียมตัวซื้อเอง แต่ว่าถ้าได้ปรับตำแหน่ง uniform ก็จะแจกให้ตามตำแหน่งครับ และส่วนของ uniform นี้เราก็สามารถส่งซักได้ถ้ายังไม่เกิดอาการขี้เกียจ แต่ถ้าไปทำงานใหม่ๆ ก็แนะนำให้ลองไปส่งผ้าเองดูก็แล้วกันอย่างน้อยก็ได้เห็นได้รู้อะไรในบางส่วนที่เราไม่ค่อยได้เห็น ผมอยู่เรือมาเกือบ 10ปี ผมเคยลงไปที่ห้อง uniform แค่ไม่กี่ครั้งเองครับ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้ว จ้างคนซักผ้าให้ตลอด อาทิตย์ละแค่ 10$ เองครับ แลกกับเวลาและความสะดวกสะบายที่เราจะได้รับครับ เพราะว่าถ้าคุณส่งเองก็ต้องคอยถึงสองวันถึงจะได้ [เข้ามีให้3ชุด]
แต่ถ้าจ้างคนซักผ้า ส่งวันนี้ตอนเย็น พรุ่งนี้ตอนเย็นชุดก็ได้แล้ว นี่แหละครับที่เขาเรียกว่า money talk และบนเรือนี่ money is god สำหรับทุกผู้ทุกคนครับ แต่ว่าเสื้อผ้าของเราเองเราจะต้องเป็นคนซักเองนะครับ หรือจะจ้างซักก็ได้ แต่ว่าค่าใช้จ่ายก็จะแพงนิดหน่อยเพราะนับเป็นชิ้น ส่วนที่ซักผ้าก็จะมีอยู่หลายจุดพอสมควรแล้วแต่ขนาดของเรือลำที่เราอยู่ครับ
     CREW GYMNASIUM ครับ นี่ก็คือสถานที่ที่ให้ลูกเรือได้มาทำการออกกำลังฝึกความแข็งแรงของร่างกายเพื่อพร้อมที่จะรับงานหนักของวันต่อไป ก็เป็นห้องไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป แต่ก็มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือครบพอสมควร ผมเองก็เคยไปใช้บริการอยู่ค่อนข้างจะบ่อยอยู่พอสมควร ประโยชน์ที่ได้รับก็คือความกระฉับกระเฉง และความสมส่วนของร่างกายครับ แต่อย่าหักโหมมากนะครับ เพราะว่าพรุ่งนี้เรายังต้องทำงานต่ออยู่นะครับ เอาให้แค่พอดีก็พอครับ เหมือนดังคำที่ว่า "ไม่ต้องรีบหรอกงานน่ะมีให้ทำทั้งปี"
     CREW INTERNET ณ ตอนนี้คิดว่าเรือทุกลำคงจะมี ห้อง internet สำหรับลูกเรือครบกันหมดแล้ว และบางลำจะมีบริการ wi-fi แล้วด้วยแต่ก็ต้องแลกมากับการยอมจ่ายเงินเพิ่มนะครับ นอนอยู่บนเตียงยังเปิดเช็ค e-mail ได้เลยครับสะดวกมาก ก็ลองเช็คดูก็แล้วกันว่าเรือลำที่เราอยู่น่ะมันมี wi-fi หรือเปล่า

     CREW BAR [crew recreation] อันนี้คงจะเป็นสถานที่ที่ลูกเรือทุกคนชอบเอามากๆ เพราะว่ามันเป็นที่ที่มานั่งพักผ่อนสมอง หรือมานั่งพักขาดื่มเบียร์เย็นๆ และคุยกับเพื่อนฝูงแค่นี้มันก็เป็นอะไรที่มีความสุขที่สุดแล้วครับ ยิ่งวันไหนที่เขามีงานพิเศษต่างๆ ยิ่งดูคึกคักใหญ่ เพราะว่าทั้งชะนีและสาวสวยก็จะแต่งตัวมาประชันกันแบบสุดๆ แบบว่าแค่นั่งดูก็อิ่มแล้ว เผลอๆ อาจมีเฮด้วยใครจะไปรู้ crew bar ก็คือสถานที่ที่ขายเครื่องดื่มให้กับพนักงานในราคาต้นทุน [ที่ยังได้กำไรอยู่] เช่นเบียร์ก็ตกอยู่กระป๋องละ 1 $ โค้กก็ตกอยู่ที่กระป๋องละ 65 cent ซึ่งก็ถือว่าถูกแล้ว ดื่มได้เต็มที่ไม่มีใครว่า แต่ขอบอกขอเตือนว่าอย่าดื่มจนเมาแบบไม่ได้สตินะครับ หลายๆคนอาจจะเคยคุยให้คุณฟังว่าดื่มเหล้าเมาทุกวัน เมาไปทำงานก็มี ครับเรื่องนี้มันเรื่องจริง แต่อย่าเอาอนาคตของเราไปเสี่ยงเลยครับ เดี่ยวจะบอกเหตุผลในหัวข้อ กฎระเบียบของเรือ อันนี้เอาแบบคร่าวๆ ก่อน คือว่าถ้าคุณเมาแล้วไม่มีใครเห็นก็ไม่เป็นไรครับ แต่ว่าถ้าดวงคุณซวย บังเอิญว่าคุณเมาแล้วหลับอยู่ที่โต๊ะ คือกลับห้องไม่ไหว หรือว่าเมาเดินเซจะกลับห้องแล้วชนโน่นชนนี่ หรือเมาแล้วพูดไม่รู้เรื่อง ถ้า safety officer หรือ security มาเจอเข้า คุณก็เตรียมตัวเก็บเสื้อผ้าทันทีที่หายเมาครับ แล้วเดี๋ยวจะมาบอกต่อว่าทำไมวันนี้เอาแค่นี้ก่อน

No comments:

Post a Comment