หวัดดีครับพี่น้องชาวเรือทั้งหลาย หวังว่ายังคงติดตามกันอยู่ ก็อย่างที่บอกนะแหละไม่ได้เขียนบล็อคมาก็เกือบปีแล้ว แต่ก็ยังพอมีน้องๆ mail เข้ามาสอบถามกันบ้างพอสมควรก็ได้แต่บอกให้มาอ่านข้อมูลเดิมก่อน เอาเป็นว่านับจากนี้น้าก็จะพยายามเอาข้อมูลที่ได้ไปเจออะไรใหม่ๆมา ซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือเรื่องเดิมๆสำหรับน้านะแหละ แต่คิดว่ามันอาจจะใหม่สำหรับน้องใหม่หลายๆคน งานเรือนี่จะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากมันก็ยาก มันก็ไม่ได้ต่างอะไรมากมายจากโรงแรมหรอก แต่มันต่างกันเยอะเลยอย่าพึ่งงงนะอ่านไปเรื่อยๆ อันดับแรกเลยที่มันดูเหมือนกันก็คือมันเป็นงานบริการเหมือนกันเหมือนๆกับโรงแรมทั่วไปนี่แหละ แต่สิ่งที่มันไม่เหมือนกันก็คือว่าเรือมันลอยอยู่ในน้ำและมันสามารถเคลื่อนย้ายตัวเองไปยังที่ต่างๆได้ มันจึงได้เปรียบโรงแรม ที่จะมีแค่ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม โรงแรมจะต้องทำหน้าที่ให้ลูกค้ามาหาที่โรงแรมในฤดูกาลต่างๆ แต่ว่าเรือมันจะย้ายไปหาลูกค้าเช่นเรือลำนึงภายในหนึ่งปีไปตั้งเกือบค่อนโลก ก็ช่วงไหนลูกค้าอยู่ไหนหรือมีหน้าท่องเที่ยวที่ไหนเขาก็เตรียมตัวจัดตารางการเดินเรือไว้เรียบร้อยแล้ว นี่คือข้อได้เปรียบ แต่มีอยู่อย่างนึงที่ทั้งโรงแรมและเรือต้องทำเหมือนกันก็คือการบริการลูกค้า และที่สำคัญทำยังงัยให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและกลับมาใช้บริการใหม่
แล้วเรื่องการทำงานบนเรือล่ะมันต่างกันมากไหมกับการทำงานบนโรงแรม อันนี้ก็เหมือนอย่างที่ได้เล่าให้ฟังไปแล้ววันนี้เผื่อว่าน้องใหม่เข้ามาดูขอเล่าแบบคร่าวๆก็แล้วกัน ไม่ว่าการงานสาขาอาชีพอะไรในโลกนี้ และไม่ว่าคุณจะไปทำงานที่ไหนให้ลองสังเกตดูให้ดีว่าภายในองค์กรหนึ่งนั้นมันจะมีคนอยู่ประมาณ 3-4 กลุ่ม คือพวกที่อยู่เฉยๆ ไม่ค่อยกระตือรือรน แล้วก็พวกที่ขี้เกียจอันนี้ไม่ต้องอธิบายว่าขี้เกียจยังงัย อีกพวกก็จะเป็นตัวยืนขององค์กรพวกขยันว่างั้นเหอะคนกลุ่มนี้ในองค์กรหนึ่งจะมีอยู่ไม่กี่คน เมื่อเทียบกับสองกลุ่มแรกน้อยกว่าเยอะเลย และกลุ่มสุดทายก็จะเป็นพวกที่ไม่ค่อยจะจัดกลุ่มเข้ากับกลุ่มใดส่วนใหญ่จะทำให้งานเสียซะมากกว่า พูดง่ายๆก็คือไอ้พวกที่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำว่างั้น เพราะฉนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะต้องไปเจอเพื่อนร่วมงานแบบไหนดีหรือไม่ดี ไปอยู่ที่ไหนก็เจอ แต่สิ่งที่เราจะไปเจอและก็เกิดเป็นข้อแตกต่างก็คือ ภาษาที่ต้องพยายามเข้าใจให้ได้ว่ามันพูดอะไร วัฒนธรรม มารยาท การให้เกียรติ กฏและกติกาที่ค่อนข้างจะเข้มงวดและค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะเรื่องไหนที่เกี่ยวกับความปลอดภัยบนเรือแล้วล่ะก็ขอแนะนำว่าให้ทำตามซึ่งบางเรื่องอาจจะดูโครตโง่เลยในความรู้สึกของเราแต่ถ้าบอกว่าเกี่ยวกับความปลอดภัยแล้วทำตามเหอะเดี๋ยวจะว่าน้าไม่เตือน และก็เรื่องที่สำคัญอีกอย่างนึงที่ค่อนข้างจะเป็นปัญหาใหญ่เลยสำหรับคนไทยก็คือเรื่องอาหารการกิน ไม่ได้บอกว่าเขาไม่มีอะไรให้กินนะ อาหารนะมันมี แต่ว่ามันไม่ได้ปรุงมาเพือให้พวกเราได้กินกันอย่างเอร็ดอร่อย มันปรุงมาให้สุกก็แค่นั้นเอง Cook ในภาษาอังกฤษนั้นแปลว่า ทำให้สุก สุกแล้วอะไรทำนองนี้ แล้วไอ้ Cook ที่อยู่บนเรือมันก็ทำได้ครบถ้วนตามที่ตำแหน่งมันระบุไว้แล้วเอาอาหารออกมาจากตู้เย็น ทำให้สุก ก็เอามาให้กินได้แล้ว หลายคนที่ทำงานเรือมาซักพักก็คงจะรู้ว่าที่น้าบอกว่าทำให้สุกมันหมายถึงอะไร ก็คือว่ามันไม่มีรสชาดอะไรเลยแหละ แต่มันสุกแล้วนะว่ามันก็ไม่ได้ เพราะว่าหน้าทีมันก็คือ Cook
เรื่องงานนะไม่เท่าไหรหรอกสำหรับคนไทย บอกว่าแบกถาดหนัก เบิกของหนัก ก็ให้ลองมองย้อนไปดูพวกที่เขาทำงานแบกหามที่รับรายได้วันละแค่ไม่กี่บาท ในบ้านเรา กับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นอันไหนมันหนักกว่ากัน หนักยังงัยก็ไม่หนักเท่าแบกข้าวสารที่คลองเตยหรอก คนไทยจะมีปัญหาหรือตกม้าตายหมายถึงไปไม่ไกลในตำแหน่งหน้าที่ก็มีหลักๆอยู่ไม่กี่เรื่อง ที่แน่ไม่ใช่เรื่องเนื้องาน ภาษาสำหรับคนไทยในการทำงานในระดับต้นๆ นั้นน้าเชื่อว่าทุกคนมีความสามารถพอที่จะรับฟังสื่อสารและก็ถ่ายทอดกันรู้เรื่อง แต่ถ้าคุณจะขี้นไปในตำแหน่งที่สูงกว่านั้นมันไม่ใช่แค่สื่อสารกันรู้เรื่องแค่นั้น คุณจะต้องมีความสามารถในการสอนงาน ถ่ายทอดข้อมูลที่ได้รับมาจากที่ประชุมหรือ MEMO / MAIL คุณจะต้องมีความสามารถในเชิงจิตวิทยาในการพูดให้ลูกน้องทำงานให้คุณ พูดง่ายๆคือซื้อใจลูกน้อง คุณจะต้องมีความมั่นใจที่จะพูดต่อหน้าผู้คนเยอะๆ เช่น Meeting / Training และงานคุณก็ไม่ใช่แค่งานที่คุณเคยทำมาก่อน หลังจากเลิกงานและก่อนเริ่มงานคุณก็จะต้องมาจัดการกับเอกสารทั้งหลายแหล่ให้เรียบร้อย ข้อมูลทุกอย่างที่คุณรู้มาหรือข้อมูลทุกอย่างในเอกสารที่คุณได้มาลูกน้องของคุณก็ต้องรู้จากคุณ และอีกนิดนึงมันก็จะต้องมีการทำ Report ด้วยในบางกรณี และที่สำคัญของทุกอย่างเอกสารต่างๆนี่ณ เวลานี้เขาจะใช้ Computer เป็นตัวช่วยและเก็บข้อมูลกันหมดแล้ว เพราะฉนั้นเวลาที่คนอื่นเขาเห็นน้าเดินไปเดินมาก็จะโดนเพื่อแซวตลอดว่า อะไรกันนี่วันๆเอาแต่เดินไปเดินมา งานนะมันมีให้ทำแต่ถ้าเราเป็นงาน งานมันก็จะทำแทนเราเองนะแหละ อันนี้หมายถึงน้านะ ที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังก็คืออยากจะบอกว่าทุกคนมีโอกาสที่จะก้าวหน้ามีโอกาสที่จะเป็นระดับหัวหน้าได้เหมือนกัน แต่ว่านอกจากทำงานหนักแล้ว ต้องเตรียมความพร้อมในสิ่งเหล่านี้ที่น้าได้บอกไว้แบบคร่าวๆก็แล้วกัน ถ้าทำตรงนี้ได้หมด ซักวันนึงเราก็ได้ทำงานไปเดินเล่นไป
No comments:
Post a Comment