สวัสดีครับเคยได้ยินหลายคนเหมือนกันครับเอ่ยถามคำถามนี้กับหลายๆคน ทั้งที่เคยไปทำงานเรือหรืออาจจะยังไม่เคยไปทำงานบนเรือมาก่อน ว่าการเป็นอยู่ของผู้หญิงบนเรือเป็นอย่างไรบ้าง อันตรายหรือเปล่า มีสิทธิโดนข่มขืนหรือเปล่า โดนหัวหน้างานบังคับหรือแตะอั๋งหรือเปล่า และผมก็ได้ไปเจอบทความ บทความหนึ่งจากเว็บแห่งหนึ่งเกี่ยวกับการทำงานบนเรือของผู้หญิง ว่าต้องโดนหัวหน้างานบังคับ และล่วงละเมิด และบ้างครั้งอาจถึงขั้นโดนข่มขืนก็มี ครับอ่านแล้วก็ต้องยอมรับว่ารู้สึกไม่ดีเลย ก่อนที่เราจะมาพูดถึงเรื่องการทำงานของผู้หญิงบนเรือผมว่าเราลองมามองดูชีวิตจริงของการใช้ชีวิตของผู้หญิงกันดีกว่าครับ อันตรายหรือภัยคุกคามของผู้หญิงนั้นโดยปรกติแล้วจะมีมากกว่าผู้ชายครับ เพราะว่าโดยตามธรรมชาติแล้วผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่าผู้ชายอยู่แล้ว ไม่ว่าผู้หญิงไปอยู่หรือทำงานที่ไหนก็มักจะมีภัยอยู่รอบๆตัวอยู่แล้วครับ แต่สิ่งที่ผมกำลังจะพูดให้ฟังนี้มันเป็นเรื่องจริงเรื่องหนึ่งที่ผู้หญิงบางคนทั้งที่กำลังทำงานอยู่บนเรือและหรือเคยทำงานบนเรือมาก่อนหรือไม่เคยทำงานเรือมาก่อนแต่กำลังตัดสินใจที่กำลังจะมาทำงานเรือ อาจจะยังไม่รู้และควรจะรู้ไว้เป็นอย่างมาก
บนเรือนั้นมันมีกฎอยู่กฎหนึ่งซึ่งอาจจะไม่ใช่กฎหมายที่จะเอาคนเข้าคุกเข้าตาราง[ยกเว้นเรื่องยาเสพติด ไม่ว่ามีเรื่องที่ประเทศไหนติดคุกที่ประเทศนั้นทันที] เราเรียกว่า Harassment คำคำนี้ความหมายมันกว้างมาก และเป็นคำที่รุ่นแรงอย่างมากในเมืองนอกและโดยเฉพาะบนเรือ อ้อลืมบอกความหมายไปสำหรับบางคนที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับมันคำนี้อ่านว่า ฮะแร็ซ-เม้นต์ แปลว่า การรุกราน การก่อกวน การคุกคาม การสร้างความรำคาญ การรังควาน ที่มีผลทำให้อีกคนหรืออีกฝ่ายเกิดความรู้สึกไม่สะดวกใจ ไม่สบายใจ และหรือรู้สึกกลัว ไม่ว่าจะเป็นทาง กาย วาจา หรือแม้กระทั้งสายตาครับ
จริงๆ แล้วความหมายมันก็คือการคุกคาม การรุกราน การก่อความรำคาญให้อีกคนหนึ่งแค่นั้นเองครับ แต่เมื่อนำมาตีความแล้ว แล้วอะไรล่ะที่มันเป็นการรุกราน อะไรล่ะที่มันเป็นการก่อกวน มันเป็นอะไรที่หาคำอธิบายได้ยากมาก เพราะว่าบนเรือนั้นมีคนอยู่ด้วยกันจำนวนมากที่มาจากหลายประเทศและหลายศาสนาและความเชื่อ การหอมแก้มกันของชาติอื่นๆ อาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณไม่ชอบที่จะให้ใครมาหอมแก้มคุณง่ายๆอย่างน้น คนที่กำลังจะหอมแก้มคุณหรือหอมไปแล้ว เขาก็คือคนที่กำลังคุกคามคุณอยู่หรือได้คุกคามคุณไปแล้ว แล้วทีนี้เมื่อเรากำลังถูกคุกคามหรือถูกคุกคามไปแล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปครับ [ผมยกตัวอย่างเรื่องหอมแก้มให้ดูแล้วเดี๋ยวผมจะบอกในตอนหลัง] อันดับแรกให้บอกหัวหน้าของคุณทันที [ถ้าบังเอิญคนที่ทำเป็นหัวหน้าคุณให้บอกหัวหน้าแผนก] เล่ารายละเอียดทุกอย่างให้เขาฟังและบอกเขาว่าคุณรู้สึกไม่ดีและคุณจะไม่มีทางรู้สึกดีจนกว่าคุณจะได้คุยกับ P&T MGR. PT Mgr.นี้บ้านเราน่าจะเรียกว่า Personal ประมาณนั้นแหละแต่ว่าตำแหน่งนี้บนเรือเขาจะทำเกี่ยวกับ Training และก็เป็นที่ปรึกษาเชิงกฎหมายของลูกเรือด้วย ไม่ต้องกลัวหัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงาน ถ้าคุณมั่นใจว่าคุณไม่ผิดนะครับ PT Mgr. จะเป็นคนช่วยไกล่เกลี่ยให้แต่นั้นต้องเป็นไปตามระบบที่วางไว้คือว่าคุณได้แจ้งหรือคุยกับหัวหน้าคุณแล้วแต่ไม่มีอะไรคืบหน้าคุณก็เลยต้องมาหาเขา แปลให้อีกอย่างนึ่งว่าคนที่ทำหน้าที่ PT Mgr. ก็คือที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายให้แก่ลูกเรือก็ว่าได้
เอาล่ะกลับมาว่ากันต่อที่เรื่องเราโดยหอมแก้มแล้วเราไม่สบายใจจนทำให้เราต้องบอกหัวหน้าแผนกและเราก็ต้องการคุยกับ PT Mgr. หลายๆคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงจะขำหรือถึงขั้นหัวเราะออกมาเลยก็มีว่ามันจะอะไรนักหนาก็แค่หอมแก้มทักทายกันตามธรรมดา ครับถ้าคุณไม่รู้สึกอะไรเวลามีใครที่ไม่ใช่แฟนของคุณมาหอมแก้มก็ไม่ผิดอะไรครับ และผู้ชายคนที่เข้ามาหอมแก้มคุณก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะเขาไม่ได้ทำให้คุณเดือดร้อนหรือรู้สึกไม่สบายใจ แต่ว่า ถ้าผู้หญิงไม่ยอมและบอกว่านี่คือการคุกคามเธอยอมรับไม่ได้ คุณรู้มั๋ยครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับไอ้หมอนั่น มีอยู่สองอย่างครับ
1.ก็โดนลงโทษสถานหนักอาจถึงให้เซนต์ใบเตือน และเขาคนนั้นไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวหรือทำอะไรให้คุณรู้สึกไม่สบายใจอีกเป็นอันขาด ถ้าเกิดขึ้นอีกเขาก็เตรียมตัวกลับบ้านทันทีครับ
2.ถ้าจากการสอบสวนแล้วเกิดจากการตั้งใจของฝ่ายชาย และเป็นการกระทำโดยท้าทายทั้งๆที่ฝ่ายหญิงบอกว่าไม่แล้วแต่ยังจะหอมให้ได้เขาก็ต้องกลับบ้านทันทีครับ
Harassment คือการกระทำใดๆก็ช่างที่ทำแล้วทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเดือดร้อน ไม่สบายใจ หรือหวาดกลัว
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกเป็นอย่างไรบ้างครับ ที่ยกตัวอย่างแค่เรื่องการทักทายด้วยการหอมแก้มซึ่งเป็ฯเรื่องปรกติของพวกฝรั่ง แต่ว่าเราเป็นคนไทยครับถ้าคุณไม่สะดวกสบายใจในสิ่งที่เกิดขึ้นนั่นคือการ Harassment ก็ลองนึกดูนะครับว่าถ้าเรื่องแค่นี้เขายังเอาจริงขนาดนี้ แล้วเรื่องที่ว่าจะโดนแต้ะอั๋งนะยังมีโอกาสเกิดขึ้นอยู่อีกหรือ คนที่มาทำงานเรือทุกคนไม่มีใครอยากโดนส่งกลับบ้านหรอกครับ เรื่องนี้คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงผมเคยเห็นคนที่โดนส่งกลับบ้านด้วยข้อหาเล็กๆ แบบนี้มานักต่อนักแล้วครับ เดี๋ยวจะกลับมาเล่าให้ฟังกันต่อมีอีกหลายเรื่องมาก เรื่องที่เล่าให้ฟังวันนี้คิดว่าน่าจะเข้าใจอะไรมากขึ้นนะครับ ครั้งหน้ามีกรณีที่ช็อควงการมาก เอาแบบย่อๆนะครับ มีหัวหน้างานคนนึงทำงานดีมากแต่บังเอิญไปว่าลูกน้องที่มาทำงานสาย ย้ำนะครับว่าลูกน้องคนนี้มาทำงานสายแล้วสามครั้ง ก็เลยทำให้ลูกน้องคนนี้อายที่โดนว่าต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน ตอนจบก็คือว่าหัวหน้างานคนนี้โดนส่งกลับบ้านในข้อหาที่ไปว่าลูกน้องที่มาทำงานสายครับ นีคือการ Harassment ทางวาจาครับยังไม่โดนเนื้อต้องตัวเลยครับ เป็นอย่างไรบ้างครับคุณผู้หญิงสบายใจกันขึ้นมาบ้างหรือเปล่า
No comments:
Post a Comment