Sunday, October 25, 2009

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับงาน

ครับผมก็หายหน้าหายตาไปนานพอสมควรครับ ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรกันบ้างครับ ตอนนี้ก็ยังคอย e-mail จากแฟนๆอยู่นะครับส่งมาทักทายกันหน่อยก็ไม่ว่าอะไรนะครับ เราจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันไม่จำเป็นต้องเป็นลูกเรือของ princess นะครับ ของบริษัทไหนก็ได้ครับ ยิ่งอยากรู้ครับจะได้นำมาถ่ายทอดให้น้องๆ ได้รู้กันครับ เอาละครับมาว่ากันต่อในเรื่องความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับงานกันต่อดีกว่าครับ ครั้งที่แล้วได้พูดถึงแผนกที่ค่อนข้างใหญ่ที่สุดในวงการเรือหรือโรงแรมนั้นก็คือ F&B ไม่ต้องบอกนะครับว่าแปลว่าอะไร [fab & breeze] ต่อมาเรามาพูดถึงแผนก accomodation กันดีกว่า ฟังดูแล้วอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูพวกเรากันซักเท่าไหร่นักครับ แต่ถ้าบอกว่า house keeping หรือแผนกแม่บ้านทุกคนก็จะร้องอ๋อเป็นไอ้จ๋อกันไปเลย ครับแผนกนี้ก็คือแผนกแม่บ้านในวงการโรงแรมนี่แหละครับ เพียงแต่ศัพท์ที่ใช้อาจจะต่างกันเล็กน้อยครับ ถ้าอยากรู้ว่าคำศัพท์คำไหนที่ใช้ต่างกันก็ให้ไปดูเพิ่มเติมอีกทีที่ คำศัพท์งานเรือ มาว่ากันที่ตำแหน่งแรกกันก่อนเลยดีกว่าครับ
crew cleaner [utility cleaner]ตำแหน่งนี้ก็คือพนักงานทำความสะอาดครับแต่ว่าเป็นพนักงานทำความสะอาดขั้นฝึกหัดว่างั้นเหอะครับ คือว่าน้องใหม่ที่มาทำงานเรือครั้งแรกเลยในแผนกนี้จะต้องเริ่มต้นที่ตำแหน่งนี้กันทั้งนั้น ยกเว้นถ้าโชคดีหรือมีเส้น???? พูดง่ายๆ ก็คือว่าให้ฝึกงานในส่วนของลูกเรือก่อน[crew area] ครับ งานหนักไหมตำแหน่งนี้ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยนะครับว่า หนักครับ หนักมากด้วยครับ แต่ตายไหม ไม่ตายครับ อยู่มาก็9ปีก็ยังไม่เห็นใครตายเพราะงานหนักกันเลยนะครับ งานหนักครับแต่ก็สบายใจครับ เพราะวันๆ เจอแต่ห้องน้ำกับขยะ หนำซ้ำวันสิ้น cruise [turnaround day] ก็คนกลุ่มนี้อีกนะแหละครับที่จะต้องทำการยกกระเป๋าลูกค้า passenger ลงจากเรือ และก็ต้องยกกระเป๋าชุดใหม่ขึ้นมาสำหรับ cruise ต่อไป[ ลงวันนี้และก็ขึ้นวันพรุ่งนี้ครับ] หลังยังไม่หายยอกเลยครับ และที่สำคัญตอนนี้ที่เรือและเมืองนอกที่เจริญแล้วจะไม่อนุญาตให้ใช้ back support นะครับเขามีเหตุผลของเขาว่าการใส่ back support นั้นทำให้พนักงานยกของที่หนักเกินความสามารถของตนเอง จะทำให้กระดูกสันหลังทำงานหนักเกินไปและจะมีผลในระยะยาว [แต่ตอนนี้จะตายอ่ากันอยู่แล้ว]อย่าบ่นเลยเอาเป็นว่าเขาเป็นห่วงเราก็แล้วกันครับ ตำแหน่งนี้หนักครับใครที่ยังไม่เคยทำงานมาก่อนขอให้คิดดูซักนิดนึงว่าตัวเองพร้อมแล้วหรือยังกับงานที่ไม่คุ้นเคยอย่างนี้ และที่สำคัญเงินน้อยที่สุดและงานหนักที่สุดครับ รายได้นะครับเมื่อก่อนเขาจะให้เป็นเงินเดือนครับอยู่ที่ 356$ และก็เงิน cruise อีกประมาณอาทิตย์ละ 70-90 $ ซึ่งรวมแล้วก็น่าจะได้ไม่เกิน 700 $ ต่อเดือน อันนี้พูดจริงๆ นะครับ
accomodation attendance [acat] หรือที่คนไทยส่วนใหญ่ชอบเรียกว่าไอ้แมว [a-cat] คงรู้แล้วนะ ตำแหน่งนี้ก็คือว่าหลังจากที่คุณได้ฝึกวิทยายุธจากวัดเส้าหลิน [crew cleaner]จนสำเร็จ พูดง่ายๆว่าผ่านด่านได้ว่างั้นเหอะ คุณก็จะได้ตำแหน่งนี้มาความแตกต่างของงานนี้กับ crwew cleaner ต่างกันอยู่นิดเดียวครับเพียงแต่ว่าคุณได้ย้ายมาทำความสะอาดห้องน้ำกับเก็บขยะในส่วนของลูกค้า passenger area ก็แค่นั้นเองครับ หนำซ้ำวันสิ้น cruise [turnaround day] คุณก็ยังได้ไปยกกระเป๋าขึ้นลงให้ลูกค้าเหมือนเดิมครับ คำว่ายกกระเป๋านี่หลายคนคงจะยังมองไม่เห็นความสยดสยองของมันว่ามันจะเหนื่อยกันแค่ไหนเชียว ลองจินตนาการตามผมดูนะครับยกตัวอย่างเรือที่มีลูกค้า 3100 คน กระเป๋าที่ลูกค้านำติดตัวมาก็น่าจะมีคนละประมาณ 2-3 ใบ แต่โดยปรกติแล้วจะมากกว่าคนละ3 ใบ เพราะว่าแค่ชุดราตรีของคุณภรรยาก็ 1-2 ใบเข้าไปแล้วครับ จะขอคิดแค่คนละ 3 ใบก็พอนะครับก็คือว่ากระเป๋าประมาณ 9300 ใบครับที่จะต้องขนมาเตรียมไว้ข้างล่าง[ชั้น 4,M1,DECK 4]แล้วแต่ว่าใครจะเรียกแต่ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ชั้น 4 ครับผมก็กระเป๋าแค่ประมาณ 9000 ใบเองครับ แต่วาจำนวนพนักงานที่ทำการขนกันนั้นผมก็ไม่เคยนับแบบจริงๆหรอกนะครับแต่กะเอาด้วยสายตาว่าไม่ถึงร้อยคนแน่นอนครับ และมองลึกลงไปอีกนิดนึงนะครับ กระเป๋าที่ว่านี่ส่วนใหญ่แล้วจะมีน้ำหนักเกินกว่าที่ air port กำหนดไว้เยอะมากครับ เพราะว่าส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นชาวamerican หรือถ้าไม่ได้อยู่แถว america ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนพื้นที่ครับ และหรือต่อให้เขาต้องนั่งเครื่องเขาเหล่านั้นก็ยินดีที่จะเสียค่าปรับที่กระเป๋าของพวกเขาน้ำหนักเกิน ทำไมหรือครับ เพราะว่าของที่เขาซื้อมาจากเมืองท่าปลอดภาษี+เงินค่าปรับที่ air port ก็ยังถูกกว่าเขาซื้อเหล้าดีขวดนึงที่ america ดเลยครับ ก็ด้วยเหตุผลนานาประการนี่แหละครับ จึงทำให้กระเป๋าแต่ละใบนั้นหนักถึงหนักมากครับผม

Monday, October 19, 2009

ข่าวสารวงการเรือต่อ

ครับผมครังที่แล้วก็ได้เห็นภาพกว้างๆ ของเรือสำราญกันไปแล้วนะครับว่าไอ้เจ้าเรือสำราญนี่มันก็คือโรงแรมดีๆ นี่แหละครับเพียงแต่ว่ามันลอยน้ำได้ก็เท่านั้นเองครับ เรือสำราญนั้นเริ่มก่อตั้งกันมาตั้งนานแล้วและแต่ละปี มนุษย์ก็พยายามทำให้มันใหญ่ขึ้นทุกปีครับ ยกตัวอย่างเมื่อสมัยที่ผมเข้ามาทำงานเรือใหม่ๆ เรือลำแรกที่ผมทำงานมีขนาดเล็กพอสมควรมี passenger ประมาณ 1100 คน crew ประมาณ 430 คน แค่นั้นเองครับ ต่อมาก็มาอยู่ลำที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหน่อยนึงครับ passenger ประมาณ 1950 คน crew ประมาณ 800 คน ต่อมาก็มาอยู่ลำที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกมี passenger ประมาณ 2600 คน crew ประมาณ 1070 คน เห็นไหมครับว่ามันเริ่มใหญ่ขึ้นๆ แต่ยังไม่หมดเท่านั้นครับ ลำต่อมาก็ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกมี passenger 3100 คน creew 1200 คน ก็ถือได้ว่าเป็นลำที่ใหญ่ที่สุดณ เวลานั้นที่ผมได้ทำงานด้วย แต่เชื่อไหมครับว่าตอนนี้มันมีลำที่ใหญ่กว่านี้อีกครับ และที่สำคัญเขาระบุด้วยว่า ลำนี้เป็นลำที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเวลานี้ครับ เป็นของบริษัท royal caribbean ครับก็เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการเรือสำราญที่ทุกคนคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดีครับ ซึ่งไอ้เจ้าเรือสำราญที่ว่านี้มีชื่อว่า freedom of the sea ครับ จริงๆแล้วมีรูปไว้ให้ดูด้วยแต่ว่าวันที่ post blog มีปัญหานิดหน่อย upload นานมากเอาไว้เป็นวันต่อไปก็แล้วกันแต่อยากจะบอกว่ามันใหญ่มากใหญ่จริงๆ และที่สำคัญสิ่งอำนวยความสะดวกสะบายทั้งหลายแหล่มีเตรียมไว้ให้ passenger ได้ใช้บริการกันอย่างมากมายครบทุกเพศทุกวัย ต่อให้คุณเคยไปเที่ยวเรือสำราญมาบ้างแล้วพอสมควร แต่ถ้าคุณมาเจอลำนี้ คุณก็คงจะแทบไม่เชื่อเหมือนกันว่าไอ้ที่เราเห็นอยู่นี่มันคือเรือสำราญลอยน้ำ หรือว่า city complex กันแน่ มันประมาณนั้นจริงๆครับขนาดว่าผมทำงานเรือมา 10 ปีแล้วพอผมได้เห็นรายละเอียดของส่วนต่างๆ แล้วบอกตรงๆครับว่าผมขอยกนิ้วให้เลยครับ แทบอยากจะกลับไปทำงานเรืออีกครั้งเลย ครับแต่ก็อย่างว่านะแหละครับทุกอย่างในโลกล้วนเกิดมาและดับไปครับและผมก็เชื่อเหลือเกินว่าความยิ่งใหญ่ของ freedom of the sea คงจะเป็นที่กล่าวขวัญถึงกันอีกไม่นานเกินรอก็จะต้องมีใครทำเรือสำราญที่ลำใหญ่กว่านี้และมีสิ่งอำนวยความสะดวกสะบายมากกว่านี้ขึ้นมาแน่นอน ไม่นานเกินรอครับแต่ที่แน่ๆในตอนนี้นะครับ ทางญี่ปุ่นก็ได้ซุ้มเงียบวางแผนที่จะทำลายสถิติโลกของเรือสำราญทั่วโลกด้วยการที่จะทำเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลกและที่สำคัญไม่ใหญ่แบบธรรมดานะครับใหญ่แบบชนิดที่ว่าคงจะไม่มีใครสามารถทำลายสถิติได้ภายในระยะเวลา 10 ปีเป็นอย่างน้อย และไอ้เจ้า freedom of the sea นี้ก็จะกลายเป็นเด็กๆ ไปเลยครับ พูดง่ายๆ ก็คือว่าถ้าญี่ปุ่นสามารถต่อเรือลำที่ว่านี้ได้สำเร็จจริงนะครับ ไอ้เจ้า freedom of the sea ก็จะมีขนาดเล็กลงไปอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ เพราะว่า freedom of the sea จะต้องรวมกันสองลำถึงจะมีขนาดใกล้เคียงกับเรือลำนี้ของญี่ปุ่นครับ อย่าเพิ่งตกใจไปนะครับเพราะว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆครับ แต่ญี่ปุ่นมีแผนที่จะเริ่มสร้างเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนปี 2012 โน่นนะครับ เจ้า freedom of the sea ก็เลยมีเวลาได้คุยโม้ต่ออีก 2-3 ปีครับ ลองมาดูขนาดเปรียบเทียบกันดูเล่นๆ นะครับ
freedom of the sea ขนาด 154,407 gross tonnage
princess kaguya [ญี่ปุ่น] ขนาด 450,000 gross tonnage
เห็นความแตกต่างหรือยังครับ ถ้ามีอะไรคือหน้าจะรีบรายงานให้ทราบทันทีครับ ครั้งหน้ามีรูปให้ดูแน่นอนครับผมขอบคุณที่ติดตามครับผม

Friday, October 16, 2009

ข่าวสารวงการเรือสำราญ

ครับผมบทความตรงนี้ก็จะขอบอกกล่าวเล่าเรื่องของวงการเรือสำราญให้พวกเราๆ ท่านๆทุกคนที่ได้สละเวลาเข้ามาเยี่ยมชมกันก็ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ในวงการของเรือสำราญนั้นถ้าจะให้พูดไปแล้วในบ้านเราผมคิดว่ายังมีคนรู้จักกันในหมู่น้อยอยู่นะครับ โดยเฉพาะบางกลุ่มคนแล้วแทบจะไม่รู้จักเลยก็มี เอาเป็นว่ามาเกริ่นกันอย่างคร่าวๆ ก็แล้วกันผมจะไม่ย้อนอดีตไปในยุคของการเริ่มต้นนะครับ ตอนนี้เราอยู่ยุค 2009 แล้วนะครับมาพูดถึงเรื่องในปัจจุบันกันดีกว่า
ถ้าใครที่ยังไม่ค่อยรู้จักหรือไม่แน่ใจว่าไอ้เจ้าเรือสำราญนี้แท้จริงแล้วมันเป็นอะไรและอย่างไรกันแน่ ให้พวกเราที่สงสัยกันอยู่นั้นลองจินตนาการนึกภาพของโรงแรมดูนะครับ ลองนึกดูว่าอะไรบ้างที่โรงแรมมีไว้บริการลูกค้าที่มาพัก เรือสำราญก็จะมีเหมือนกันทุกอย่าง และที่สำคัญส่วนใหญ่แล้วจะมีมากกว่าที่ทางโรงแรมมีซะอีก เอาเป็นว่าเรือสำราญมันก็คือโรงแรมลอยน้ำดีๆ นี่เองแหละครับ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกจะมีไว้มากกว่าเพราะว่าต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมบริการลูกค้าที่มาพักทั้งหมด ลูกค้าไม่สามารถว่ายน้ำออกไปเที่ยวที่ไหนได้เมื่อขึ้นเรือแล้วก็ต้องอยู่ กิน นอน อยู่บนเรือจนหมดเที่ยว [cruise] จะขอยกตัวอย่างของสิ่งอำนวยความสะดวกของเรือลำนึงที่มีผู้โดยสารประมาณ 3100 คน ลูกเรืออีก 1200 คน เขามีอะไรไว้คอยบริการลูกค้าบ้าง
*ห้องอาหาร 11 ห้อง
*บาร์ 14 บาร์
*สระว่ายน้ำ 5 สระ
*ห้องยิม
*สปา ครบวงจร
*ลู่วิงออกกำลัง [ยาว 600 เมตร ต่อ 1 รอบ]
*คาสิโน
*โรงหนัง
*โรงละคร
*สนามเด็กเล่น
*ห้องสมุด
*internet cafe
*ห้างสรรพสินค้า [ครับเข้าใจได้ถูกต้องแล้วครับ
*และอื่นๆ อีกมากมายที่ยังไม่รู้จะบอกอย่างไรดียังมีอีกเยอะครับ เอาเป็นว่ามันเยอะมากครับ และที่สำคัญก็คือว่า คนประมาณ 4000 คนอยู่ในสถานที่เดียวกันได้แบบไม่มีความรู้สึกว่ามันคับแคบเลยครับ เดี๋ยวตอนต่อไปจะพาไปดูว่าตอนนี้ไอ้เจ้าเรือสำราญที่เราพูดถึงกันอยู่นี้มันไปถึงไหนกันแล้วครับ

Wednesday, October 14, 2009

counter

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับงาน ต่อ

ครับผมก่อนอื่นก็ต้องขอสวัสดีกันก่อนครับและก็ต้องขอโทษด้วยครับที่หายหน้าไปนาน แบบว่าช่วงนี้งานเข้าครับผมยุ่งมาก ส่วนใครที่พึ่งจะแวะเวียนเข้ามาที่นี้เป็นครั้งแรกก็ต้องขอสวัสดีและก็ยินดีต้อนรับเป็นอย่างมากครับ ไม่ว่าคุณจะเป็น thaiseaman แล้ว หรือกำลังจะเป็นก็ตามผมคิดว่าเนื้อหาสาระในที่นี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับพวกเราทุกคนไม่มากก็บ้างแหละน่า เอาละครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาวันนี้จะขอพูดต่อเรื่องของแผนก bar ต่อนะครับ
BAR SUPERVISOR ตำแหน่งนี้ก็จะคล้ายกับ bartender นะแหละครับ ทำหน้าที่เบื้องต้นคลายกันหมดแต่จะมีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบมากกว่า bartender ก็เริ่มตั้งแต่การจัด schedule ของลูกทีม โดยปรกติแล้ว bar sup. หนึ่งคนจะรับผิดชอบประมาณ 3-4 bars มีลูกทีมประมาณ 12-20 คน แล้วแต่ขนาดของ bar จริงๆแล้วก็คือว่าต้องรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นใน bar ที่ตัวเองรับผิดชอบ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่เท่าไหร่หรอก ไม่มีใครว่าอะไรหรอก แต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นล่ะก็ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนจะทำงานอยู่หรือกินข้าว ก็จะมีคนโทรมาถามทันทีว่ามันเกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แล้วเราจะไปรู้ได้อย่างไรในเมื่อเรายังนั่งกินข้าวอยู่เลย ฝรั่งบางทีมันก็โง่เหมือนกันนะแหละ และเวลาที่มันแสดงความโง่ออกมาแต่ละที มันแสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้งมากเลย ผมเองก็เคยเจอเหตุการณ์ต่างๆ นาๆมาก็ตั้งเยอะแล้วบอกตามตรงว่าเซ็งมากเลยไม่ได้ดังใจโก๋เลย ก็ไอ้สาเหตุนี้ นี่แหละครับที่ทำให้ผมไม่อยากจะทำงานกับฝรั่งโง่ๆอีกต่อไป แต่ไม่ต้องตกใจไปนะครับ กว่าผมจะได้มายืนอยู่ในตำแหน่งนี้ [bar supervisor] ก็เข้าปีที่ 7 นะครับ อยู่ในตำแหน่งนี้มาสองปีเต็มๆ เรือลำล่าสุดที่ผมเคยอยู่ก็คือ caribbean princess ที่บอกว่าไม่ต้องตกใจไปน่ะ คือว่ากว่าที่คุณจะเห็นว่าฝรั่งโง่นั้นมันก็ใช้เวลาหลายปีอยู่นะ ไม่ต้องไปคิดอะไรมากหรอกครับ หรือใครที่คิดว่าอยู่ไปได้ซักพักแล้วรู้สึกว่า เออว่ะ มันโง่จริงๆว่ะ ช่วยส่ง e-mail มาที่ chatfreedomlife@gmail.com  ด้วยนะครับและช่วยเล่าให้ฟังด้วยว่าไปเจออะไรมาจะได้เอามาเล่าสู่กันฟัง ถือว่าเป็นประสปการณ์สอนน้องในโอกาสต่อไป นอกเรื่องไปนิด มาต่อกันเรื่องรายได้ของ bar sup. ก็จะได้มากกว่า bartender นิดหน่อย แต่งานที่ได้เพิ่มมาไม่ค่อยนิดเลย

นาทีหวาดเสียวตอนเรือลอดใต้สะพานที่ new york  ใครตัวสูงแทบจะแตะสะพานได้เลย

มหานคร new york ที่ใครๆก็อยากจะไปเที่ยว

เทพีแห่งเสรีภาพ เรือจอดอยู่ไกลมาก เลยได้แค่นี้แหละ

THE PIAZZA หรือศูนย์รวมความบันเทิงครับ


มุมนี้เมื่อก่อนดูเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ
แล้วเจอกันใหม่นะครับ

Saturday, October 10, 2009

ความเป็นมาของเรือสำราญ

รายชื่อเรือสำราญที่ติดอันดับใหญ่ที่สุดในโลก


จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา

ตามหลักแล้ว การวัดขนาดของเรือสำราญนั้นมักใช้ตัวเลข Gross tonnage



Gross tonnage คือตัวเลขแสดงขนาดของเรือคิดได้จากการคำนวณจากสูตร 0.2+0.02 log10V โดย V คือปริมาตรส่วนปิดของเรือ เช่น ห้องพักผู้โดยสาร, ห้องครัว, หรือห้องเครื่อง เป็นอาทิ ไม่รวมส่วนเปิดเช่น ทางเดินเล่น (Promanade) ดาดฟ้าภายนอกทั้งในร่มหรือกลางแจ้งที่ไม่มีประตู



การวัดขนาดเรือสำราญโดยใช้เลข Gross tonnage นั้น ได้มีการรวบรวมทำเป็นสถิติเรือสำราญลำที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเริ่มเก็บสถิติใน ค.ศ. 1819 (พ.ศ. 2362) โดยจากวันนั้นถึงวันนี้ เรือที่เคยขึ้นแท่นเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้นมีหลายสิบลำ ดังนี้



ปีที่ครองตำแหน่ง(ค.ศ.) ปีที่ครองตำแหน่ง(พ.ศ.) ชื่อเรือ สายการเดินเรือ ตัวเลข Gross tonnage สัญชาติ รูปเรือ

1819 - 1831 2362 - 2374 SS Savannah Savannah Steamship Company 320 สหรัฐอเมริกา

1831 - 1838 2374 - 2381 SS Royal William St. John & Halifax Steam Navigation Company 540 แคนาดา

1838 - 1839 2381 - 2382 SS Great Western Great Western Steamship Company 1,340 สหราชอาณาจักร ไฟล์:Great Western.jpg

1839 - 1840 2382 - 2383 SS British Queen British & American Steam Navigation Company 1,862 สหราชอาณาจักร

1840 - 1845 2383 - 2388 SS President British & American Steam Navigation Company 2,366 สหราชอาณาจักร

1845 - 1853 2388 - 2396 SS Great Britain Great Western Steamship Company 3,270 สหราชอาณาจักร

1853 - 1853 2396 - 2396 SS Himalaya P & O Steam Navigation Company Ltd. 3,438 สหราชอาณาจักร

1853 - 1857 2396 - 2400 SS Atrato Royal Mail Line Ltd. 3,466 สหราชอาณาจักร

1857 - 1858 2400 - 2401 SS Adriatic New York & Liverpool United States Mail S.S. Co. (Collins) 4,145 สหรัฐอเมริกา

1858 - 1867 2401 - 2410 SS Great Eastern Eastern Steam Navigation Company 18,915 สหราชอาณาจักร

1867 - 1871 2410 - 2414 RMS Republic Pacific Mail Steamship Company Inc. 4,352 สหรัฐอเมริกา

1871 - 1873 2414 - 2416 RMS Egypt National Line Ltd. 4,670 สหราชอาณาจักร

1873 - 1874 2416 - 2417 RMS City of Chester Inman Line Ltd. 4,770 สหราชอาณาจักร

1874 - 1875 2417 - 2418 RMS Britannic White Star Line Ltd. 5,008 สหราชอาณาจักร

1875 - 1881 2418 - 2424 SS City of Berlin Inman Line Ltd. 5,526 สหราชอาณาจักร

1881 - 1881 2424 - 2424 SS Servia Cunard Line 7,391 สหราชอาณาจักร

1881 - 1888 2424 - 2431 SS City of Rome Inman Line 8,415 สหราชอาณาจักร

1888 - 1893 2431 - 2436 SS City of New York Inman Line 10,499 สหราชอาณาจักร

1893 - 1893 2436 - 2436 RMS Campania Cunard Line 12,950 สหราชอาณาจักร

1893 - 1897 2436 - 2440 RMS Lucania Cunard Line 12,952 สหราชอาณาจักร

1897 - 1899 2440 - 2442 SS Kaiser Wilhelm der Grosse Norddeutscher Lloyd 14,349 เยอรมนี

1899 - 1901 2442 - 2444 RMS Oceanic White Star Line Ltd. 17,274 สหราชอาณาจักร

1901 - 1905 2444 - 2448 RMS Celtic White Star Line Ltd. 21,035 สหราชอาณาจักร

1905 - 1905 2448 - 2448 SS Amerika Hapag 22,225 เยอรมนี

1905 - 1906 2448 - 2449 RMS Baltic White Star Line Ltd. 23,876 สหราชอาณาจักร

1906 - 1907 2449 - 2450 SS Kaiserin Auguste Victoria Hapag 24,581 เยอรมนี

1907 - 1907 2450 - 2450 RMS Lusitania Cunard Line Ltd. 31,550 สหราชอาณาจักร

1907 - 1911 2450 - 2454 RMS Mauretania Cunard Line Ltd. 31,938 สหราชอาณาจักร

1911 - 1912 2454 - 2455 RMS Olympic White Star Line Ltd. 45,234 สหราชอาณาจักร

1912 - 1912 2455 - 2455 RMS Titanic White Star Line Ltd. 46,329 สหราชอาณาจักร

1912 - 1913 2455 - 2456 RMS Olympic(ซ่อมแซมต่อเติมเรือ) White Star Line Ltd. 46,439 สหราชอาณาจักร

1913 - 1914 2456 - 2457 SS Imperator Hapag 52,117 เยอรมนี

1914 - 1914 2457 - 2457 SS Vaterland Hapag 54,282 เยอรมนี

1914 - 1922 2457 - 2465 SS Bismarck Hapag 56,551 เยอรมนี

1922 - 1935 2465 - 2478 RMS Majestic (SS Bismarck ที่ถูกซื้อและเปลี่ยนชื่อ) White Star Line Ltd. 56,551 สหราชอาณาจักร

1935 - 1940 2478 - 2483 SS Normandie Compagnie Générale Transatlantique S.A. 79,280 ฝรั่งเศส

1940 - 1971 2483 - 2514 RMS Queen Elizabeth Cunard-White Star Ltd. 83,673 สหราชอาณาจักร

1971 - 1972 2514 - 2515 SS Seawise University (RMS Queen Elizabeth ที่ถูกซื้อและเปลี่ยนชื่อ) Orient Overseas Container Line 83,673 ฮ่องกง

1972 - 1984 2515 - 2527 SS France Compagnie Générale Transatlantique 66,343 ฝรั่งเศส

1984 - 1988 2527 - 2531 SS Norway(SS France ที่ถูกซื้อ เปลี่ยนชื่อ ซ่อมแซม ต่อเติม) Norwegian Cruise Line 70,202 นอร์เวย์ และ สหรัฐอเมริกา

1988 - 1990 2531 - 2533 MS Sovereign of the Seas Royal Caribbean International 73,192 นอร์เวย์ และ สหรัฐอเมริกา

1990 - 1996 2533 - 2539 SS Norway (ซ่อมแซมต่อเติมอีกครั้ง) Norwegian Cruise Line 76,049 นอร์เวย์ และ สหรัฐอเมริกา

1996 - 1997 2539 - 2540 MS Carnival Destiny Carnival Cruise Line Inc. 101,509 สหรัฐอเมริกา

1997 - 1999 2540 - 2542 MS Grand Princess P & O Princess Cruises Ltd. 108,865 สหรัฐอเมริกา และ สหราชอาณาจักร

1999 - 2000 2542 - 2543 MS Voyager of the Seas Royal Caribbean International 137,276 นอร์เวย์ และ สหรัฐอเมริกา

2000 - 2004 2543 - 2547 MS Explorer of the Seas Royal Caribbean International 137,308 นอร์เวย์ และ สหรัฐอเมริกา

2004 - 2006 2547 - 2549 RMS Queen Mary 2 Cunard Line Ltd. 148,528 สหราชอาณาจักร

2006 - ปัจจุบัน 2549 - ปัจจุบัน MS Freedom of the Seas Royal Caribbean International 154,407 นอร์เวย์ และ สหรัฐอเมริกา

2007 - ปัจจุบัน 2550 - ปัจจุบัน MS Liberty of the Seas (เรือแฝด) Royal Caribbean International 154,407 นอร์เวย์ และ สหรัฐอเมริกา

2008 - ปัจจุบัน 2551 - ปัจจุบัน MS Independence of the Seas (เรือแฝดอีกลำ) Royal Caribbean International 154,407 นอร์เวย์ และ สหรัฐอเมริกา

2009 - 2552 - MS Oasis of the Seas (ขณะก่อสร้าง) Royal Caribbean International 220,000 นอร์เวย์ และ สหรัฐอเมริกา

2012 - 2555 - Princess Kaguya (ขณะวางแผน) Japan Contents Network Inc. 450,000 ญี่ปุ่น



SS Great Eastern เป็นเรือลำที่มีขนาดก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับยุคนั้น หลังการปลดระวางการใช้เรือเกรดอีสเทิร์น ก็ไม่มีเรือสำราญลำใดในโลกที่ใหญ่กว่าเรทอีสเทิร์นนานถึง 34 ปี

เช่นเดียวกับเรือ RMS Queen Elizabeth หลังมันประสบอุบัติเหตุจนต้องปลดระวาง ก็ไม่มีเรือสำราญลำใดใหญ่กว่ามันเป็นเวลานานถึง 24 ปี

ภายหลังการอับปางของเรืออาร์เอ็มเอสไททานิก เรือโอลิมปิกได้รับการปรับปรุงอีกครั้งเพื่อเพิ่มความปลอดภัย โอลิมปิกจึงขึ้นตำแหน่งเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอีกครั้งก่อนที่เรืออิมเพอเรเตอร์ ที่ออกบริการในเดือนมิถุนายน ค.ศ.1913 คว้าตำแหน่งนี้ไปได้

เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีเรือควีนแมรี่ติดอันดับ เนื่องจากควีนแมรี่ได้รับการออกแบบให้มีขนาดใหญ่กว่าเรือนอร์มังดี ซึ่งมีขนาดดั้งเดิม 79,280 ตัน แต่ก่อนหน้าที่เรือควีนแมรี่ออกบริการ เรือนอร์มังดีก็ได้รับการต่อเติมอีก จึงมีขนาด 83,423 ตัน ซึ่งถึงแม้ว่าควีนแมรี่ต่อเติมส่วนอื่นๆ แต่ก็ได้แค่ 81,235 ตัน

Tuesday, October 6, 2009

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับงาน

หวัดดีอีกครั้งครับ เป็นอย่างไรกันบ้างมาถึงตรงนี้แล้วก็คงจะพอได้รับอะไรที่พอจะเป็นประโยชน์กันบ้างนะครับ ในวันนี้เราจะมาพูดถึงลักษณะของงานในแต่ละตำแหน่ง ต่างๆกันไปแต่ไม่ต้องไปวิตกกังวลอะไรหรอกนะครับ งานมันก็เหมือนงานโรงแรมทั่วไปนี่แหละครับ งานหนักไม่ใช่ปัญหาหลักของคนไทยครับ ปัญหาที่ทำให้คนไทยอยู่ไม่ได้ หรืออยู่ได้แต่ไม่มีความสุขนั้นมาจากปัจจัยหลักๆ ดังนี้
1.คิดถึงบ้าน อันนี้ไม่ต้องอธิบายมากนะคงพอจะเข้าใจกันดีว่ามันแค่ไหน
2.ภาษาในการสื่อสารก็ภาษา ENGLISH นั้นแหละ บ้างครั้งในที่ๆเราทำงานอยู่อาจจะไม่มีเพื่อนคนไทย
อยู่ หรือเพื่อนร่วมห้องก็ไม่ใช่คนไทย เวลาจะพูดจะคุยอะไรมันดูติดๆ ขัดๆ ไปซะหมด มีเรื่องกลุ้มใจก็ไม่มีที่ๆจะระบาย ยิ่งทำให้กลุ้มไปใหญ่
3.วัฒนธรรมการเป็นอยู่ และการใช้ชีวิตของคนที่นี่ค่อนข้างจะต่างจากบ้านเราอย่างมากเพราะไอ้พวกฝรั่งหัวแดงที่ทำงานอยู่บนเรือนี่ ส่วนใหญ่แล้วมันจะไม่ค่อยมีมารยาททางวัฒนธรรมกันซักเท่าไหร่ หรือพูดง่ายๆ มันก็คือไอ้ฝรั่งขี้นกดีๆ นี่แหละเพียงแต่ว่ามันพูดภาษาเดียวกันรู้เรื่องมากกว่าเราแค่นั้นเองมันเลยได้เป็นหัวหน้าเรา
4.อาหาร อันนี้ก็แทบจะเรียกว่าเป็นปัจจัยหลักเลยก็ว่าได้ ลองนึกดูนะว่าคุณทำงานมาเหนื่อยๆ และก็มีเวลาพักอยู่แค่นิดเดียว หิวก็หิว แต่พอไปดูอาหารแล้วบางครั้งมันก็ทำให้หมดเรี่ยวหมดแรงได้เหมือนกันเพราะฉนั้นเตรียมไปให้พอ
      เอาละที่นี้มาพูดถึงเรื่องงานกันต่อขอเริ่มที่แผนกที่ใหญ่ที่สุดก่อน[คนไทยทำเยอะที่สุด] นั่นก็คือแผนก F&B [food & beverage] มาว่ากันไปที่ละตำแหน่งเลยก็ว่าได้ขอเริ่มต้นจากอาหารก่อน dinning room staff นะเอง
ASST. BUFFET ตำแหน่งนี้เรียกเหมือนโรงแรมก็ประมาณว่า bus boy อะไรประมาณนั้นนะแหละก็ส่วนใหญ่แล้วตำแหน่งนี้ถ้าไปใหม่ๆ เลยนี่เขาจะให้ไปเดินขายเครื่องดื่ม [drink]บนดาดฟ้าเรือ[open deck] แต่ก่อนที่จะขึ้นไปเดินขายเครื่องดื่ม ต้องพูดคำว่า DRINK ให้ถูกซะก่อนนะ ตลกอีกแล้วแต่ก็ลองพูดดูนะครับ ถ้าขายได้เยอะหรือขยันว่านอนสอนง่าย พูดง่ายๆว่าเข้าตาหัวหน้าว่างั้นเหอะ ประมาณ2-3 เดือนคุณก็อาจจะได้ย้ายเข้าไปในร่ม ทำเกี่ยวกับ buffet ในตอนกลางวันและตอนเย็นก็อาจจะได้ไปทำที่ dinning room ถ้าดูแล้วมีแวว มาดูเรื่องของรายได้กันบ้าง ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งเริ่มต้นคุณจะมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 800$-1100$ ต่อเดือน อันนี้คือตัวเลขโดยเฉลี่ยที่ได้มานะครับ
BUFFET STEWARD ตำแหน่งนี้ก็คือการปรับตำแหน่งมาจาก asst.buffet นะแหละ ส่วนการทำงานก็แทบจะไม่มีอะไรต่างกันเลย แล้วแต่ว่าเขาจะให้ไปทำอะไรที่ไหนงานเหมือนกันเด๊ะ แต่รายได้ก็จะเขยิบขึ้นมานิดหน่อยประมาณ950$-1200$ ต่อเดือน
JUNIOR WAITER ตำแหน่งนี้ส่วนใหญ่แล้วก็จะได้ทำงานใน dinning room เพราะถือได้ว่ารู้งานเป็นงานพอสมควรแล้ว กว่าจะมาถึงตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถและโอกาสของแต่ละคนนะบางคนใช้เวลาแค่2 ปี แต่บางคนก็ใช้เวลาถึง 4 ปี ตรงนี้ก็สุดแล้วแต่ ส่วนในเรื่องของการทำงานก็แทบจะไม่ต่างอะไรกัน ก็เสริฟอาหารทั่วไปแล้วแต่ว่าจะได้ไปทำหน้าที่อะไร ส่วนเรื่องของรายได้ก็จะดีขึ้นมาอีกพอสมควรประมาณ 1400$-1800$ ต่อเดือน
WAITER กว่าจะมาถึงตำแหน่งนี้ได้ก็พอสมควรอยู่เร็วสุดที่เห็นอยู่ที่3 ปี หรือมากกว่านั้น ก็บอกแล้วงัยว่ามันแล้วแต่โอกาสและจังหวะของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ส่วนเรื่องงานก็แทบจะไม่ได้ต่างจากตำแหน่งข้างต้นซักเท่าไหร่ จะต่างก็ตอนอยู่ที่ dinning room คือต้องรับผิดชอบ passenger ใน section ของตัวเองทั้งหมดโดยจะมี runner คอยวิ่งเครื่องดื่มและอาหารให้ waiter ก็มีหน้าที่คอยดูแล ลงอาหารให้ passenger ทั้งหมดโดยประมาณจะมี passenger อยู่16-20 คน บางห้องจะแบ่งเป็น 1st sitting และ 2nd sitting  จะมีเวลาหยุดหายใจหน่อยนึง แต่บางห้องจะเป็นแบบเปิดให้ลูกค้า passenger มาตอนไหนก็ได้เราเรียกว่า personel choice แบบนี้จะต้องทำงานต้องแต่ต้นจนจบม้วนเดียว ส่วนเรื่องรายได้ในตำแหน่งนี้ถือว่าสูงมากเลยทีเดียว ก็ที่บางคนเอาไปคุยว่ามาทำงานเรือได้เงินเดือนเป็นแสน ก็มาจากตำแหน่งนี้นะแหละ แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้มันก็ไม่ใช่ในปีแรกนะครับอย่างน้อยก็ 3 ปีขึ้นไปนะครับ รายได้จะอยู่ที่ประมาณ 2600$-3200$ ต่อเดือน นี่แหละคือที่มาของ เสริฟเงินแสน

บรรยากาศในห้องครัว
เอาละครับนั่นก็คือข้อมูลโดยคร่าวๆ ของแผนก dinning room  ทีนี้ลองมาดูฝัง BAR กันบ้างดีกว่า แผนกผมเองครับ แผนก BAR เป็นแผนกที่ดูๆ แล้วจะสะบายกว่าทุกๆ แผนกทั้งในเรื่องบรรยากาศในการทำงาน ลักษณะของงานที่ไม่ค่อยจะได้แบก ได้หามกันซะเท่าไหร่ และรายได้ก็ถือว่าดีพอสมควรถึงดีมากแล้วแต่โอกาส และที่สำคัญมีวันหยุด [off] ให้อีกต่างหาก ครับจริงๆแล้วเราต้องทำงานกันทุกวัน แต่คำว่าวันหยุดนี่คือได้หยุดช่วงเช้าครับ แต่ก็ยังถือว่าดีอยู่นะแหละเพราะว่าแผนกอื่นต้องทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด ถึงหยุดก็ไม่ได้หยุดมากเหมือนแผนก BAR ครับ ชักเริ่มอยากจะมาอยู่ BAR แล้วใช่มั๋ยล่ะ ลองมาดูแต่ละตำแหน่งซิว่ามีอะไรบ้าง
UTFB [UTILITY FOOD & BEVERAGE] หรือเรียกกันอีกอย่างว่า PANTRY BOY แปลเป็นไทยได้ใจความว่า สารพัดประโยชน์ หรืออะไรประมาณนั้นนะแหละ นี่คือตำแหน่งแรกของ BAR เป็นตำแหน่งที่ทำงานหนักที่สุด แต่ได้เงินน้อยที่สุด มาดูงานของเขานะครับว่ามีอะไรบ้าง [ ตำแหน่งนี้มีผู้ชายแค่นั้นแต่บางทีก็เห็นหลุดๆมาก็มีเหมือนกัน] เริ่มตั้งแต่การ loading คือการขนของจากข้างนอกเข้ามาเก็บไว้ใน cellar ของที่ว่าก็คือพวกเครื่องดื่มทั้งหลายนะแหละครับ อยากรู้มั๋ยครับว่ามันเยอะขนาดไหน เอาเป็นว่าบางครั้งก็ประมาณ 10 ตู้รถพ่วงคันยาวๆ นะแหละทำกันอยู่ประมาณ10-15 คน แล้วก็เบิกของเข้า bar เตรียมผลไม้ต่างที่ต้องใช้ใน bar เตรียมเครื่องมื้อเครื่องใช้ ล้างแก้ว คอยวิ่งเวลาที่ต้องการอะไรเพิ่มเติม และตอนปิด bar ก็ต้องล้างทำความสะอาด bar กันยกใหญ่ ไม่ใช่แค่ bar เดียวนะครับอย่างน้อย 2 bar บางทีก็ 3 bar นี่ยังพูดไม่หมดนะ ยังหนักกว่านี่อีกถ้าคิดว่าตัวเองไม่เก่งจริงหรือไม่อึดจริง ก็อย่ามาเลยตำแหน่งนี้ แต่ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ชีวิตคุณจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังทีนเลยแหละ ส่วนในเรื่องของรายได้ บอกตามตรงเลยว่าน้อยมากอยู่ที่ประมาณ 750$-900$ ต่อเดือน
JBS [JUNIOR BAR STEWARD] หรือ SBS [SERVICE BAR STEWARD] หรือเรียกง่ายๆว่าพนักงาน
เสริฟเครื่องดื่มนะแหละ ตำแหน่งนี่ค่อนข้างจะสะบายกว่าตำแหน่งแรกเยอะมาก ก็คือจะทำการขายเครื่องดื่มอย่างเดียว ทำงานตาม schedule ถึงเวลาเข้าเวรก็มา พอถึงเวลาออกเวรก็ไป คือไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากมาย แค่ดูแล passenger ให้ดีไม่มีปัญหา และก็ขายเครื่องดื่มให้ได้เยอะๆ แค่นั้นก็พอแล้วส่วนในเรื่องของรายได้ของตำแหน่งนี้ จะเป็นแบบ commission per sale ทุกๆการขายที่เกิดขึ้นผ่าน server no. ของคนคนนั้น เขาจะได้ commission 15% จากยอดขายที่เขาได้ขายไปทั้งหมด เพราะฉนั้นรายได้ตรงนี้จึงขึ้นอยู่กับความสามารถและความขยันของแต่ละคน ตัวเลขรายได้ที่เห็นๆมาสูงสุดต่อวัน[ไม่ใช่ว่าได้อย่างนี้ทุกวัน] ประมาณ 250$-300$ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะขายได้กันวันละประมาณ 80$-150$ แล้วแต่สถานที่ที่อยู่และก็แล้วแต่ passenger ด้วย โดยสรุปแล้วจะมีรายรับอยู่ที่ประมาณ1200$-3000$ ต่อเดือน
BARTENDER หรือที่เราน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วก็คือ คนชงเหล้า นะเอง กว่าจะมาถึงตรงนี่ก็ต้องผ่านตำแหน่งด้านบนมาก่อน ก็คือไม่ต้องเดินถือถาดตากแดดขายเครื่องดื่มอยู่ข้างนอก แต่ถูกจับมาขังไวในคอกแทน หน้าที่ของ bartender หลักๆ เลยก็คือชงเหล้าให้ passenger และก็คุยหรือทำอย่างไรก็ได้ให้ passenger มีรอยยิ้มขึ้นมา ทำอย่างไรก็ได้ให้เขากลับมาใช้บริการอีก ทำอย่างไรก็ได้ให้เขาประทับใจ หน้าที่อีกอย่างก็คือต้องดูแล bar ของตัวเองให้อยู่ในความเรียบร้อย ต้องเตรียมของให้พร้อม และพร้อมใช้อยู่ตลอดเวลา ต้องทำ stock take นี่ก็คือความรับผิดชอบหลักๆ ที่นี้มาดูเรื่องของรายได้ รายได้ของ bartender เป็นอะไรที่ไม่ค่อยแน่นอน รายได้หลักเลยก็จะมาจากยอดขายหน้า bar 15 % และก็จะมี bar bonus จากยอดขายของทั้งลำ และก็มีเงินเดือนอีก 356$ โดยสรุปแล้วจะมีรายรับอยู่ที่ประมาณ 1800$-2600$ แล้วแต่เส้นทางการเดินเรือ และช่วงเวลาและก็แล้วแต่ passenger ว่าดื่มกันหนักแค่ไหน


BAR WARS คือการโชว์ผสมเครื่องดื่มโดยให้ passenger เข้ามามีส่วนร่วมด้วย


ภาพเก่าๆกับผองเพื่อนแผนก bar ที่ emerald princess

ภาพนี้ตรียมตัวจะไป princess cay's เดี๋ยวก็รู้ว่าสนุกแค่ไหน


บรรยากาศในที่ทำงานหลังจากพายสงบ ช่วงที่ยุ่งจะอยู่ข้างในกันประมาณ8 คนยังแทบจะไม่ทัน
วันนี้พอแค่นี่ก่อนนะแล้วจะมาต่อเรื่องbar อีกนิดนึงคือว่ายังไม่จบ

Monday, October 5, 2009

เตรียมตัวกันต่ออีกนิดนึง

What,s up ว่ายังงัย คำนี้หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นกันซักเท่าไหร่ แค่อยากจะบอกให้ฟังว่าคำนี้ฝรั่งเขาใช้กันมากกว่าคำว่า How are you. I'm fine thank you and you ที่เราๆ ท่านๆ เคยคุ้นเคยมา อย่าพึ่งสับสนว่าเข้าผิด BLOG อันนี้ถูกแล้ว THAISEAMAN ของแท้จ๊ะ หัวข้อนี้ก็ยังอยู่ในเรื่องของการเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นเรืออยู่ แต่ที่ต้องเอาเรื่องภาษา ENGLISH มาพูดก็เพราะว่ามันสำคัญมากไม่แพ้อย่างอื่นเลยก็ว่าได้ ถามว่าถ้าไม่เก่งภาษาอยู่ได้มั๋ย ตอบว่าอยู่ได้ครับแต่คุณก็คงอยู่แบบไม่ค่อยสบายใจซักเท่าไหร่ ลองนึกดูว่าถ้าบังเอิญ[จริงๆแล้วมันเกิดขึ้นแน่นอน]คุณมีเรื่องไม่เข้าใจกันนิดหน่อยกับเพื่อนร่วมงานทั้งๆที่คุณเป็นฝ่ายุถูก แต่ตอนที่ต้องคุยต่อหน้าหัวหน้างานคุณกลับได้แต่นิ่งฟังอีกคนใส่ไฟคุณโดยที่คุณไม่มีโอกาสที่จะโต้ตอบ ทั้งๆที่อยากจะพูดแต่ว่ามันพูดไม่ออก[พูดไม่เป็น] คุณจะรู้สึกอย่างไร อยากจะบอกว่าสำคัญมาก ผมในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ของน้องๆมาก็หลายรุ่น ก็เห็นการพูดภาษา ENGLISH ของแต่ละคนแล้วรู้สึกเป็นห่วงมาก ไม่ได้บอกว่าคุณจะต้องพูดให้ได้เหมือนเจ้าของภาษาแต่เพียงอยากจะขอว่าให้พูดให้ชัด และออกเสียงให้ชัด และถูกต้องภาษา ENGLISH ง่ายนิดเดียวครับมันเขียนอย่างไรก็ให้ออกเสียงตามนั้นให้ครบ วันนี้มีการบ้านให้ด้วยสำหรับน้องใหม่ที่กำลังเตรียมตัวจะไปทำงานเรือหรือทำงานต่างประเทศที่ต้องใช้ภาษา ENGLISH ลองทำแบบฝึกหัดนี้ดูนะครับ
1. อ่านออกเสียง 1-10 ภาษา ENGLISH ให้ถูกต้อง และชัดเจน ฟังดูแล้วตลกมากเลยนะเด็กอนุบาลยังท่องได้เลย ครับลองไปอ่านออกเสียงดูนะครับแล้วคุณจะเห็นความสำคัญของมันซักวัน
2.อ่านออกเสียงคำเหล่านี้ให้ถูกต้องและชัดเจน
-RICE
-RIDE
-RIGHT
-LIGHT
-LIKE
-LITE
ครับฟังดูแล้วมันดูเหมือนว่าผมจะดูถูกพวกคุณจังเลยเนาะ แต่ขอให้ใจเย็นนิดนึงนะครับเพราะว่าเท่าที่ผมเคยทดสอบน้องใหม่มา ไอ้เจ้าคำง่ายๆ 6 คำที่เราเห็นอยู่ตรงนี้มันออกเสียงต่างกันหมดเลยครับ บางตัวก็ใกล้เคียงกัน บางตัวก็ห่างกันอย่างลิบลับเลยครับ แต่ก็มีน้องๆที่ผมเคยทำการทดสอบมาประมาณ90% อ่านออกมาได้เป็นเสียงเดียวกันหมด แถมยังบอกผมอีกว่าไม่เห็นจะยากเลยก็เหมือนกันนะแหละ แต่ถ้าคุณอยู่ในกลุ่ม 10% ที่เหลือก็ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วย
3. ลองมาดูอีกคำที่เราๆ ท่านๆ ชอบออกเสียงผิดกัน อย่าพึ่งเบื่อกันเสียก่อนนะครับมันเป็นสิ่งจะเป็นที่คุณจะต้องเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันของคุณเหมือนกันนะครับ
-WASH
-WATCH
-WAS
คำนี้ก็ง่ายๆอีกนะแหละก็บอกแล้วว่าภาษา ENGLISH นะมันง่ายนิดเดียว เอาละเดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อน มาดูอะไรสวยๆ งามๆส่งท้านกันหน่อยดีกว่า

PRINCESS CAY'S เป็นเกาะส่วนตัวของ princess อยู่ในเขต bahamas

CARIBBEAN PRINCESS เห็นเด่นชัดมาแต่ไกลจำชื่อ port  ไม่ได้

ลำนี้เป็นของ ROYAL CARIBBEAN ใหญ่พอกันกับลำข้างบน แบบว่าวิ่งสวนกันเลยถ่ายเก็บไว้ดูเล่น

บรรยากาศของเรืออีกลำจอดใกล้ๆกันชั้นบนสุดส่วนใหญ่จะเป็นสระว่ายน้ำให้ปลาพยูนได้ขึ้นมาเกยตื้นกันตอนนี้อาจจะยังไม่เข้าใจ แต่เดี๋ยวก็เข้าใจไปเอง

นี่ก็เป็นอีกกิจกรรมที่ให้ลูกค้าได้มาร่วมสนุกกัน bar demo หรือเรียกว่าbar wars ลองมองดูดีๆ นะจะเห็นปลาพยูนด้วยละ

MOVIE'S UNDER STAR หรือเรียกง่ายๆว่าหนังกลางแจ้งนะแหละ เรือลำใหญ่ๆ จะมีตรงนี้กันทั้งนั้น บริษัท princess เป็นผู้บุกเบิก แต่ตอนนี้ก็มีกันเกือบทุกบริษัทแล้ว

รูปนี้ใครเป็นคอหนังนอก ต้องรู้แน่นอนว่ามันคือที่ไหนเพราะว่าเป็นฉากในหนังดังหลายเรื่องมากและที่สำคัญตรงกลางของภาพที่มันดูโล่งๆ เมื่อก่อนมันคือที่ตั้งของตึก 9/11 WORLD TRADE CENTER บอกให้ก็ได้สะพานนี้ก็คือสะพาน BROOKLYN เมือง MANHATTAN new york.
วันนี้ก็คงต้องขอตัวก่อนแล้วเจอกันครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม

Sunday, October 4, 2009

เตรียมตัวกันต่อดีกว่า


เอาละครับถ้าใครอ่านมาจนถึงตรงนี้ก็คิดว่าคงจะพอเข้าใจอะไรบางอย่างนะครับเกี่ยวกับงานเรือสำราญ  ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่ค่อยจะสำราญซะเท่าไหร่สำหรับเราๆ ท่านๆ แต่สำหรับลูกค้านะใช่ วันนี้จะคุยกันเรื่องเบาๆ ก็แล้วกันลองมาทำความรู้จักรูปร่างหน้าตาของเรือสำราญที่เราจะไปทำงานกันซิว่ามันเป็นอย่างไรไอ้เจ้าเรือสำราญที่ว่านี่ ไอ้เจ้าเรือสำราญที่ว่านี้ก็มีตั้งแต่ลำเล็กๆ ไปจนถึงลำใหญ่ๆ แต่ใหญ่ที่สุดยังไม่มีการยืนยันเพราะว่าแต่ละปีก็มีลำใหญ่ที่สุดในโลกออกมาตลอด เอาเป็นว่าลองมาดูของ princess cruise lines กันก่อนดีกว่า ตอนนี้นะเวลาที่ข้ากระผมเขียนบทความนี้อยู่ princess มีเรือสำราญอยู่16ลำ วิ่งอยู่รอบโลก เพราะฉนั้นก็เช็คดูให้ดีกันว่าตัวเองต้องไปขึ้นเรือที่ไหน จะได้เตรียมเสื้อผ้าถูก มีเรื่องอยู่เรืองนึงจะเล่าให้ฟัง คือว่ามีน้องใหม่คนนึงมาทำงานเรือครั้งแรกก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ยังจะไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรซะเท่าไหร่ น้องเค้ามาขึ้นเรือที่ caribbean และเรือก็จะอยู่ที่ caribbean นี่แหละตลอดกาล แล้วมันขำตรงไหนล่ะ ก็ขำตรงที่น้องเขาขนเสือก้นหนาวมายังกะว่าจะไปอยู่ที่ alaska ซะยังงัยแหละ ยังงัยก็ลองศึกษาเส้นทางการเดินเรือไว้หน่อยก็ดี อย่างน้อยก็ควรที่จะรู้ว่าไอ้ลำที่เราจะไปทำงานอยู่ตั้ง 10 เดือนนี่ มันวิ่งไปไหนบ้าง ก็เช็คดูที่ ITINERARY BOARD นะแหละแต่ว่าตอนนี้มีแค่ของprincess นะจ๊ะ


ลำที่เห็นอยู่นี้คือลำใหญ่สุดของ princess วิ่งอยู่แถวแม่น้ำบางปะกง 5555
ล้อกันเล่นนิดหน่อยน่าอย่าโกรธนะ มาดูของจริงกันดีกว่าว่าจะใหญ่ขนาดไหนภาพอาจจะไม่ชัดซักเท่าไหร่เพราะว่าอภาพนี้ใช้กล้องตัวเองถ่ายบนเรือเล็กอีกลำนึง ลำนี้ชื่อว่า emerald princess ถือได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ของกองทัพก็ว่าได้ ลำนี้มีลูกค้า passenger ประมาณ 3,100 คน และพนักงานประมาณ 1,200 คน มีครบทุกอย่างที่โรงแรมพึงจะมีได้ อันที่จริงมันมีมากกว่าโรงแรมซะอีก เวลาขึ้นเรือใหม่เขาจะมี map ของเรือแจกด้วยไม่งั้นหลงตายเลย ขยันสังเกตุเส้นทางที่เดินทุกวันเดียวก็ชินไปเอง แต่ถ้าหลงทางก็ไม่ยากหรอกเพราะมันก็มีอยู่แค่นั้นนะแหละ ถ้าบังเอิญว่าเราจะต้องไปที่ด้านหน้าของเรือ[forward]แต่ดันไปโผล่ที่หลังเรือ[aft] ก็แค่เดินกลับมาที่ด้านหน้าของเรือประมาณแค่300 เมตร ก็แค่นั้นเองภาพนี้เป็นบริเวณห้องโถงกลางเรือที่เรือทุกลำจะต้องมี จะเป็นศูนย์รวมหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็น shopping,dinning,bar,casino,internet cafe และอื่นๆ แล้วแต่เรือแต่ละลำจะไม่เหมือนกันแต่ว่าก็จะไม่แตกต่างกันมากนัก จะเรียกห้องโถงนี้ว่า atrium สำหรับเรือเล็ก sun class และจะเรียกว่า piaza สำหรับเรือ grand class สำหรับคนใหม่แล้วถ้ายืนอยู่ตรงนี้แล้วส่วยใหญ่จะยังแยกไม่ออกว่าทางไหนด้านหน้าหรือด้านหลัง อย่าว่าแต่คุณเลยฝรั่งก็ยังงงเลยครับอันนี้คิดว่าหลายๆคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดีนะครับ มันมีอยู่บนเรือทุกลำและก็เกือบจะทุกท่า [port] ที่เราจอดมันคือ casino นั่นเองที่ต้องรีบเอามาให้ดูก่อนที่จะขึ้นเรือ ก็แค่อยากจะเตือนว่าอย่าไปยุ่งกะมันเลยเห็นมานักต่อนักแล้ว ถ้าคิดจะเสี่ยงโชครวยไม่ต้องดั้นด้นไปไกลขนาดนั้นหรอกครับ บอกตรงๆว่ามันไม่คุ้มครับยังงัยก็ฝากเอาไว้ด้วยก็แล้วกัน วันนี้พอแค่นี้ก่อนเดี๋ยวจะมาต่อในเรื่องรายละเอียดของเรือตอนต่อไป

Saturday, October 3, 2009

เตรียมความพร้อมก่อนขึ้นเรือกันต่อ

ตอนที่แล้วก็ได้บอกรายละเอียดกันไปอย่างคร่าวๆกันแล้ว ก็หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างสำหรับน้องใหม่ที่คิดอยากจะไปหาประสบการณ์ อย่าลืมนะว่าเตรียมการณ์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง บอกได้เลยว่าต่อให้อ่านจบทุกตอนที่ผมได้นำเสนอไปก็ใช่ว่าเราจะรู้อะไรไปหมดซะทุกอย่าง เพราะรายละเอียดมันมีเยอะมาก แต่อย่างน้อยเราก็พอได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรบ้างละวะ วันนี้จะขอรวบรัดตัดตอนนะว่าเราทำการณ์สมัครผ่านแล้วและกำลังจะเดินทาง เรื่องไปทำ VISA, PASSPORT และการตรวจสุขภาพจะไม่ขอพูดถึงนะ ตรงจุดนั้นผมคิดว่าทุกคนคงพอจะผ่านไปได้ด้วยดี มาพูดถึงเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับคนที่กำลังจะไปทำงานเรือ มาว่าด้วยการเตรียมกระเป๋าเดินทางกันดีกว่า
1.เสื้อผ้าส่วนตัว ไม่ต้องขนตู้เสื้อผ้าไปหรอกเอาไปแค่ไม่กี่ชุดก็พอ เพราะว่าเราก็ไม่ค่อยจะมีเวลาแต่งหล่อกันซักเท่าไหร่หรอก และที่สำคัญพอมีตังหน่อยก็อยากจะซื้อใหม่กันทั้งนั้นนะแหละ อย่าเอาไปเยอะ แต่ให้เน้นที่ชุดชั้นในและถุงเท้า ไม่ว่าชายหรือหญิง โหลหรือ2โหลถือว่าเป็นเรื่องปรกติครับ โดยเฉพาะผู้หญิงเตรียมถุงน่องไปอย่างน้อยก็ 2-3 โหล แต่ถ้าคิดว่าตัวเองสูงโปร่งร่างนางแบบฝรั่งก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหุ่นมาตรฐานหญิงไทยก็เตรียมไปได้เลย เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ทำไมต้องเอาไปเยอะนักตั้ง 2-3โหล เหตุผลมีอยู่ง่ายๆดังนี้ครับ โดยปรกติมนุษย์เราน่าจะใส่ชุดชั้นในวันละ1-2ชุด[โดยเฉพาะถ้าอยู่แถวCARIBBEAN]ร้อนมากๆครับ และก็อีกนะแหละโดยปรกติแล้วมนุษย์จะไม่ค่อยขยันหรือชอบที่จะซักผ้าซักเท่าไหร่ แค่สองเหตุผลนี้คิดว่าก็น่าจะเพียงพอนะครับ ต่อให้อีกนิดนึงถึงแม้ว่าจะมีใครที่ไม่ค่อยปรกติคือใส่ชั้นในได้หลายวันต่อชุด หรือขยันซักผ้าก็ตาม ความเป็นจริงก็คือว่าเราไม่ค่อยจะมีเวลาว่างมากขนาดนั้นหรอก หรือว่าบางทีเราว่างแต่ไอ้เครื่องซักผ้าเจ้ากรรมมันก็อาจจะไม่ว่างเสมอไปหรอก เตรียมไปเหอะ ส่วนเรื่องของรองเท้าก็แล้วแต่ลักษณะงานที่คุณทำ ก็อีกนะแหละรองเท้าดีๆ ถูกๆ ที่โน่นเยอะแยะ
2.เครื่องใช้ส่วนตัว คงไม่ต้องบอกในรายละเอียดนะว่ามีอะไรบ้างก็ของใช้ที่เราต้องใช้ตั้งแต่ตื่นนอนจนเราเข้านอนนะแหละ ขอแนะนำว่าอันนี้ไม่ต้องเอาไปเยอะ [มันหนัก] เตรียมไปอย่างละ1ชิ้นก็พอ และไม่ต้องเอาขนาดใหญ่มาก ขนาดกลางๆ ก็น่าจะพอกะให้อยู่ได้ประมาณ1-2 เดือนก็พอเพราะว่าของใช้พวกนี้หาซื้อที่โน่นตอนไหนก็ได้และราคาก็พอๆกันกับซื้อที่นี่แล้วเราจะหิ้วไปให้มันหนักทำไมล่ะ
3.ยาสามัญประจำตัว อันนี้สำหรับใครที่คิดว่าตัวเองมีความจำเป็นต้องใช้ยาอยู่พอสมควรหรือรู้ตัวว่าตัวเองต้องใช้ยาอะไร แนะนำให้เตรียมไปด้วยเพราะยาที่โน้นกับยาที่บ้านเราต่างกันมาก อันนี้ฟังเขาว่ามาเพราะว่าตัวผมเองยังไม่เคยใช้ยาเลย สำหรับผู้หญิงที่มีแฟนไปทำงานด้วยกันเตรียมยาคุมไปด้วยก็ดี เพราะว่ายาคุมที่เมืองนอกถ้าไม่มีใบสั่งยาจะไม่ขายให้ หรือถ้าจะไปขอเอาบนเรือก็มีแต่กว่าจะได้ก็ต้องตรวจสุขภาพกันอีกยก ไม่รู้ว่าอะไรกันนักหนากะอีแค่ยาคุม บ้านเราเด็กป.4 ก็ยังกินได้แล้วไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย
4.หนังสือไทย หนังไทย เพลงไทย ตลกไทย ขอแนะนำว่าให้หาติดตัวไปบ้างก็ดีตอนนี้อาจจะยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญหรอกอยู่ไปซักพักแล้วจะรู้สึก
5.DICTIONARY จำเป็นมากหรือใครคิดว่าเก่งแล้วพอตัวแล้วคุณกำลังคิดผิดอย่างใหญ่หลวง แต่ก็ยังกลับตัวทันนะ ผมก็ทำงานโรงแรมมา9 ปี และก็มาทำงานเรือที่ต้องใช้ภาษา ENGLISH เป็นหลัก และผมก็สอนงานฝรั่งมาไม่รู้ว่ากี่รุ่นต่อกี่รุ่น ผมก็ยังคิดว่ามันจำเป็นเลยคุณจะเชี่อผมหรือเปล่าว่าไม่มีใครหรอกที่รู้คำศัพท์ทุกตัวแม้แต่ฝรั่งเองก็เถอะ ถามจริงๆว่ารู้จักความหมายของภาษาไทยทุกตัวหรือเปล่า แนะนำว่าถ้ามีเงินหน่อยให้ซื้อ Smart Talking Dict เพราะเราสามารถเรียนรู้ และฟังการออกเสียงได้ดีเลยทีเดียว แต่ถ้างบน้อยก็ยังงัยก็ได้ขอให้มีไปอุ่นใจแน่นอน
6.อาหารแห้ง น้ำพริก น้ำปลา มาม่า อันนี้เป็นส่วนสำคัญมาก ขาดตรงนี้ไปชีวิตของคุณจะขาดรสชาดไปในทันที ตรงนี้อยากจะบอกว่าสำคัญมากกว่าเสื้อผ้าอีก เพราะอาหารที่โน่นมันไม่ชวนให้รับทานเอาเสียเลย มันก็เลยต้องเตรียมของพวกนี้ไป แต่ก็ขอเตือนนิดนึงว่าอาหารที่สามารถนำไปได้ควรซื้อที่มีหีบห่อมิดชิดน่าจะดีกว่าทำเองห่อเอง เพราะว่าถ้าบังเอิญว่าเราโชคดีโดนค้นกระเป๋า ไอ้พวกhand made ใส่ถุงพลาสติกทั้งหลายโดนปรับมานักต่อนักแล้ว มันไม่คุ้มกันหรอก เอาละวันนี้ก็พอหอมปากหอมคอเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเล่าให้ฟังใหม่ก็แล้วกัน

Friday, October 2, 2009

เตรียมความพร้อมก่อนลงเรือ

ในส่วนนี้จะขอพูดจากประสปการณ์จริง และความรู้สึกจริงที่เกิดขึ้น หลายๆคนที่ไปทำงานมาไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปเจออะไรมา และที่สำคัญไม่รู้ว่าเขาทำตัวอย่างไร เขาถึงเจออย่างนั้น ก่อนที่เราจะกระโดดขึ้นเรือ มาเตรียมความพร้อมก่อนดีกว่า งานเรือนั้นจะว่าไปแล้วมีมากมายหลายบริษัท แต่ที่ค่อนข้างจะใหญ่และดูน่าเชื่อถือหน่อยที่คนไทยไปทำกันเยอะที่สุดรวมถึงตัวผมเองด้วย ก็มีอยู่ 2 บริษัท
1.JIM BOWMAN .สุขุมวิท 31 tel 02-2589693
2.CTI BANGKOKซอย หลังสวน tel 02-6520205-6
e-mail thailand@cti-usa.com
thailand@ctibangkok.com
jim bowman นั้นจะส่งเฉพาะ princess cruises ส่วน cti bangkok จะส่งไปค่อนข้างจะหลายบริษัท เท่าที่รู้มาก็เช่น carnival, disney, costa ,oceana, island cruise lines ยังไม่ต้องสงสัยว่าแล้วจะไปบริษัทไหนดีละ ก็ลองอ่านต่อให้จบซิ ก็กำลังจะเล่าให้ฟังอยู่นี่แหละ ดูตามไปที่ละข้อๆเลยก็แล้วกัน
ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ครั้งแรก
1. JIM BOWMAN โดยประมาณ ณ ปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ประมาณ 58,000บาท ขาดหรือเหลือก็ไม่น่าจะเกินกว่านี้
2. CTI BANGKOK โดยประมาณ ณ ปัจจุบันน่าจะอยู่ที่ประมาณ 80,000 บาท อันนี้คือราคาที่ฟังมาเดี๋ยวจะ update ให้อีกที่ก็แล้วกัน
ระยะสัญญาจ้าง
1. JIM BOWMAN ส่วนใหญ่ที่อยู่ๆ มาประมาณ 8-10 เดือน แต่ในสัญญาจ้างจะระบุว่า10 เดือน
2. CTI BANGKOK ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 4-7 เดือน แล้วแต่ตำแหน่ง
นี่คือสองข้อหลักๆเลยที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เอ้อเกือบลืมบอกไปได้ข่าวมาแว่วๆ ว่าของทาง CTI BANGKOK เราต้องจ่ายตั๋วเครืองบินเองด้วยนะ จะบอกให้
รายได้บนเรือ[อาจแตกต่างกันที่ตำแหน่งและความสามารถ HOW]
ตรงนี้จะขอพูดรวมกันเพราะว่าเรืองรายได้เป็นอะไรที่ไม่มีกฏตายตัว แต่ก็จะมี่รายได้ขั้นต่ำที่เราควรจะได้ รายได้หลักของเราเลยจะมาจาก 3 ช่องทาง
1.เงินเดือน ซึ่งน้อยนิดมาก อาจจะ 50$  100$  356$  504$ แล้วแต่ตำแหน่งแต่ตำแหน่งที่เราไปใหม่ๆ น่าจะอยู่ที่ 50$
2. ค่าคอมมิชชั่น หรือทิป ภาษาเรือจะเรียกว่า GRATUITIES อันนี้จะเป็นเงินที่ลูกค้า[PASSENGER]ถูกบังคับให้จ่ายส่วนจะมากจะน้อยก็แล้วแต่แผนก และก็แล้วแต่บริษัทแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่10-15%
3. ทิปที่ได้จากการที่ลูกค้าชอบใจการบริการของเรา ส่วนเรื่องทิปตรงนี้ ก็แล้วแต่แผนกอีกนะแหละบางก็ทิปแบ่ง บ้างก็ทิปรวม บางที่ก็มีทิป.อมด้วย[มันมีทุกที่นะแหละไม่ต้องไปคิดมาก]
     เอาละทีนี้เราก็คงพอจะรู้อะไรบ้างนิดหน่อยแล้วละนะ ยังมีอะไรอีกเยอะแยะต่อไปมาดูกันดีกว่าว่าแล้วเราต้องมีคุณสมบัติอย่างไรละถึงจะสามารถไปทำงานเรือได้ เริ่มต้นง่ายๆเลยนะ
1.เคยทำงานโรงแรมมาก่อนบ้าง เพราะว่าเรือที่เราพุดถึงอยู่นี่มันก็คือโรงแรมลอยน้ำดีๆ นี่เอง
2.พูดภาษา ENGLISH ได้ ขอเน้นนะว่า ต้องพูดได้อย่างน้อยที่สุดก็คือการสื่อสารเบื้องต้น ผมเห็นหลายคนมากที่ไปถึงเรือแล้วแต่ว่าเขาแถบจะฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าไปได้งัย เรื่องนี้สำคัญมากเดี๋ยวจะเน้นให้เห็นอีกทีว่าสำคัญแค่ใหน แต่ขอย้ำว่าสำคัญมาก
3.เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมก่อนที่คิดจะไปทำงาน ถ้ายังอยู่ในช่วงรักษาตัว หรือพักฟื้นไม่แนะนำอย่างเด็ดขาด ร่างกายต้องฟิต และพร้อมงานน่ะหนักแน่นอนแต่ยังงัยมันก็ไม่เหมือนแบกข้าวสาร หรือไถนาแทนควายหรอก
4.เตรียมใจยอมรับสิ่งแปลกใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ตรงนี้สำคัญมาก ชีวิตของคุณจะเปลียนจากหน้ามือเป็นหลังทีนเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่สถานที่ใหม่ที่ไม่ใช้บ้านทรายทอง เพื่อนร่วมงานใหม่ที่พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง[เพราะว่าเรายังฟังมันไม่รู้เรื่อง] อาหารที่แปลกใหม่ดูดี แต่รสชาตหมาไม่รัปทาน[อันนี้เรื่องจริง] สังคมใหม่ๆ วัฒนธรรมใหม่ๆ งานใหม่ และก็อาจจะเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่สำหรับใครบางคนเลยก็ว่าได้
ยัง ยังไม่หมดแต่ง่วงแล้ว เดี๋ยวเจอกันใหม่